เหรียญรูปหลวงพ่ออุปัชฌาย์กลั่น วัดพระญาติ หลวงปู่ดู่อธิษฐานจิต ปี05 มีรอยจาร

เหรียญรูปหลวงพ่ออุปัชฌาย์กลั่น วัดพระญาติ หลวงปู่ดู่ อธิษฐานจิต ปี05 มีรอยจาร แบบพิมพ์ที่ 3 เนื้อทองแดง

ผู้จัดสร้าง
- สร้างโดยวัดสะแก

จำนวนการสร้าง
แบบพิมพ์ที่ 1 เนื้อทองแดง 1000 เหรียญ (มีรัดประคต)
แบบพิมพ์ที่ 2 เนื้อทองแดง 1000 เหรียญ (มีรัดประคต)
แบบพิมพ์ที่ 3 เนื้อทองแดง 1000 เหรียญ (ไม่มีรัดประคด)
แบบพิมพ์ที่ 4 เนื้อทองแดง 1000 เหรียญ (ไม่มีรัดประคต)

หลวงพ่อกลั่นเป็นคนอยุธยาโดยกำเนิดเหรียญสร้างในปีพ.ศ.2469 พุทธคุณเด่นทางการปกป้องกันภัยหรือที่เรียกกันว่า "คงกระพันชาตรี" หลวงพ่อกลั่น ธมฺมโชติ ผู้เป็นพระอาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองไทยในบรรดาพระอาจารย์เจ้าของเหรียญเป็นคือเป็นพระอาจารย์ที่ปลุกเสกเหรียญรูปเหมือนของท่านด้วยตัวของท่านเองเหรียญของท่านที่เป็นพิมพ์นิยมนั้นราคาแพงอันดับหนึ่งในเมืองไทย ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้นพระอาจารย์ยุคเก่าๆหลายท่านด้วยกันที่มีวิชาความรู้ในด้านธรรมชั้นสูงด้านกรรมฐานด้านวิชาอาคมขลังอย่างยอดเยี่ยมหลายๆท่านด้วยกันพระอาจารย์หลายท่านสมัยก่อนในกรุงเก่าที่ลงตำราพิชัยสงครามได้ในจังหวัดต่างๆของเมืองไทยไม่มีที่ไหนบอกเอาไว้เลยว่าลงเครื่องพิชัยสงครามได้มีแต่ที่กรุงเก่าเท่านั้น
และหลวงพ่อกลั่น ท่านนี้เองที่เป็น พระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่สีห์ และหลวงปู่ดู่ ก่อนปี 2522 นั้นหลวงปู่ดู่ท่านไม่อนุญาติให้สร้างรูปเหมือนของท่าน โดยท่านจะให้สร้างแต่วัตถุมงคลที่มีรูปลักษณ์ของอาจารย์ท่านเท่านั้น เวลาที่ท่านปลุกเสกว่ากันว่าท่านจะแสดงความเคารพ และตั้งใจเป็นอย่างมาก เวลามีใครถามถึงวัตถุมงคลที่เป็นรูปของหลวงพ่อกลั่นว่าเป็นเหรียญรูปใครหรือท่านจะตอบว่า "อุปัชฌาย์ข้า"
หลวงปู่ดู่เริ่มสร้างพระเนื้อโลหะครั้งแรก คือ พระชุดลป.กลั่น เริ่มตั้งแต่ปี 2505 หรือเท่ากับขณะองค์ท่านมีอายุ 58 ปี และบวชมานานแล้ว 38 พรรษา และต่อจากนั้นได้สร้างต่อมาเรื่อยๆ ทั้งพระเนื้อโลหะ และพระผง สลับไปมา
หลวงปู่ดู่ท่าน เริ่มมายินยอมให้สร้างเป็นรูปท่านครั้งแรก ก็ในรุ่นหล่อลอยองค์ในปี 2522 หรือเท่ากับท่านมีอายุมากแล้วถึง 75 ปี ท่านถึงจะยินยอม
รวมพระชุดหลวงปู่กลั่น
มีรวมกันทั้งหมด 11 เหรียญ เรียงตามลำดับการสร้างดังนี้
1. วัดพรานนก ปี 2505
2. วัดสะแก ปี 2505 (พิมพ์ 1)
3. วัดสะแก ปี 2505 (พิมพ์ 2)
4. วัดสะแก ปี 2505 (พิมพ์ 3)
5. วัดสะแก ปี 2505 (พิมพ์ 4)
6. วัดสะแก ปี 2512
7. วัดสะแก ปี 2512 (ยกช่อฟ้า)
8. วัดพรานนก ปี 2513
9. วัดลุ่ม ปี 2513
10. วัดโพธิ์สามหาว ปี่ 2515
11. วัดสะแก ปี 2516
จำนวนการสร้างของทุกรุ่นจะพอๆกัน คือประมาณ 1,000 เหรียญ ยกเว้นเฉพาะรุ่นปี 2516 วัดสะแก ส่วนของวัดอื่นๆที่เอามาให้มาหลวงปู่ปลุกเสก เช่น ของวัดลุ่ม วัดโพธิ์สามหาว ข้อมูลการสร้างยังไม่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะมีจำนวนการสร้างพอๆกัน หรือถ้ามากกว่ากันก็ไม่น่าจะเยอะ ด้วยทุกเหรียญหาได้ค่อนข้างยากเช่นกัน
เหรียญอื่นๆทั้ง 10 เหรียญมีระบุปีสร้างที่แน่นอน ไม่อยู่ที่ด้านหน้าเหรียญ ก็หลังเหรียญ หรือถ้าไม่มีเช่นของปี 16 วัดสะแก โค๊ด ด. ก็จะมีบันทึกการสร้างแน่นอน มีปัญหาอยู่ที่ข้อ 6. รุ่นวัดสะแกปี 12 รุ่นเดียว ที่ไม่ระบุปีสร้างและบันทึกที่ชัดเจน โดยด้านหน้าเหรียญรูปลป.กลั่น จะเหมือนกับรุ่นปี 12 ยกช่อฟ้า ขณะที่ด้านหลังเหรียญเอาบล๊อกของวัดโพธิ์สามหาว (ปี 15) และของวัดลุ่ม (ปี 13 ) มาทำ จึงสันนิฐานไม่ได้ว่าสร้างก่อนแล้วของวัดอื่นขอไปทำ หรือวัดอื่นทำ แล้ววัดสะแกขอบล๊อกมาทำ จึงสันนิฐานว่าสร้างอยู่ในราวปี 2512 - 2515 แต่วงการเรียกเป็น "รุ่นปี 12 ไม่มีปีพ.ศ.)
สำหรับค่าความนิยม วงการฯจะเล่นหาในรุ่นของวัดพรานนก ปี 05 (รุ่นแรกสุด) และของวัดสะแก ปี 05 (พิมพ์ 1 ) ในราคาสูงหลักหมื่น โดยเหรียญพรานนก 05 จะหาได้ยากกว่า
ส่วนเหรียญที่นิยมรองๆลงมา ก็คือ ชุดของวัดสะแก 05 ทั้ง 3 พิมพ์ อดีตราคาเล่นหาก็พอๆกัน แต่ปัจจุบัน (พิมพ์ 3 ) ซึ่งถือว่ามีรอยจารเยอะที่สุด เฉลี่ยประมาณ 8-10 รอยจาร กำลังได้รับความนิยม ราคาเล่นหาสูงขึ้นกว่าเหรียญ พิมพ์ 2 และ พิมพ์ 4 / ขณะที่เหรียญ (พิมพ์ 2: พิมพ์เลข ๒ ยาว) แม้งานปั้มจะไม่สวยงามเท่า(พิมพ์ 1 : พิมพ์นิยม) และราคาเล่นหาก็ต่ำกว่ามาก แต่กลับเป็นเหรียญที่หายากที่สุดในชุด 05 ของวัดสะแก ซึ่งการแยกบล็อคและแม่พิมพ์ต่างๆของเหรียญเสมาหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ปี 2505 จำแนกได้คร่าวๆ ปะมาณ 2 บล็อค คือบล็อคนิยม(มีรัดประคต)และบล็อคธรรมดา(ไม่มีรัดประคต) มีเนื้อทองแดงเพียงเนื้อเดียว โดยวัดพรานนก ต.โพธิ์สาวหาญ อ.อุทัย จ.อยุธยา ในครั้งนั้นสร้างไว้เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมทำบุญงานสร้างศาลาใหม่ของวัดพรานนก
สำหรับต้นแบบเหรียญทางวัดพรานนกเป็นผู้สร้างก่อน จากนั้นทางวัดสะแกจึงนำบล็อคด้านหน้าทั้ง ๒ แบบ(แบบมีรัดประคตและไม่มีรัดประคต)และทำบล็อคด้านหลังใหม่(หลังว.ส.ก.) เหรียญเสมาลพ.กลั่น ปี ๒๕๐๕ จัดเป็นเหรียญรุ่นแรกที่ลป.ดู่ท่านดำริให้สร้างสำหรับเหรียญที่ออกทั้ง๒วัดนี้ลป.ดู่ท่านเป็นผู้จารให้ที่หน้าเหรียญและหลังเหรียญสามารถจำแนกแบบพิมพ์ได้ดังนี้
1.บล็อคนิยม(มีรัดประคต) หลัง พรานนก
2.บล็อคนิยม(มีรัดประคต) หลัง ว.ส.ก.
(บล็อคนิยม จะมีจารด้านหน้าทุกเหรียญ ถ้าดูตามเนื้อหาหลักวิทยาศาสตร์แล้ว มีรัดประคต ไม่ว่า หลัง วสก. หรือ หลัง พรานนก น่าจะสร้างพร้อมกัน ในปี พ.ศ 2505)
3.บล็อคธรรมดา(ไม่มีรัดประคต) หลัง ว.ส.ก.
3.1 ด้านหน้าเหรียญมี พศ.๒๕๐๕ เลข "๒" มีเส้นแตก
3.2 ด้านหน้าเหรียญมี พศ.๒๕๐๕ เลข "๒" ไม่มีเส้นแตก
(หลัง ว.ส.ก. จะแกะขึ้นมาใหม่รายละเอียดจะแตกต่างจากบล็อคนิยม ส่วนใหญ่จะจารด้านหลัง ถ้าดูตามเนื้อหาหลักวิทยาศาสตร์แล้วบล็อคนี้น่าจะสร้างหลังบล็อค มีรัดประคต)
4.บล็อคธรรมดา(ไม่มีรัดประคต) หลังพรานนก
รองลงมาก็จะเป็นชุดของวัดสะแก ปี 16 มีสัญญลักษณ์คือ โค๊ด ด. ที่ฐาน ก็ถือว่าหายากพอสมควรที่เดียว
นอกนั้นก็ถือว่าความนิยมก็พอๆกัน...แต่ถ้าเป็นของที่ออกโดยวัดสะแกโดยตรง ราคาเล่นหาก็จะสูงกว่านิดหน่อย